AROWANA's Bride Ch.5 Cut Scene
นี่หรือคือบทลงโทษ...
เหตุใดจึงสวยงาม...
สัมผัสจูบบดเบียดหนักสลับอ่อนโยน ฝ่ามืออุ่นนวดคลึงเคล้าใต้กกหู สิ่งเหล่านี้กำลังทำให้สติวิงเวียนสับสนประหนึ่งคนจะจมน้ำแล้วกลับลอย ยิ่งเมื่อลิ้นสากร้อนบุกรุกเข้ามากวาดต้อนภายใน ก็บังเกิดความรู้สึกแปลกใหม่เสียจนขนลุกซู่ เจ้ากล้ามเนื้ออ่อนนี้แสนร้าย เดี๋ยวเกี่ยวพัน ผลักดัน ตวัดหยอกล้อให้ใจดวงน้อยสั่นรัวอย่างอลหม่าน
และสะกิดม่านกามารมณ์จนเกิดประกายไฟ...
“อ..อือ...” ตากลมข่มลงหลับพริ้ม วงแขนเล็กโอบคล้องแผ่นหลังกว้างอย่างเผลอไผล เอนเอียงองศาใบหน้าตามแรงชักนำอย่างว่าง่าย
ผละจากปากหวาน พญาปลาตัวใหญ่ยังพรมจูบไล่ลามตามโครงหน้าเล็ก อมยิ้มกรุ้มกริ่มนึกย่ามใจ ขณะที่ฝ่ายมนุษย์เริ่มมีท่าทีทรมาน
ร้อน...จากภายในแทบระเบิด
ปั่นป่วน...อย่างกับโลกกำลังหมุนเคว้งคว้าง
“ท่านไค...ท่านทำอะไรกับใจกระผม...” ตากลมสั่นระริก และได้รับคำตอบเป็นร้อยยิ้มสว่างเจิดจ้า
“คนดื้อ และพาล...จะต้องถูกทำโทษเป็นสองเท่านะขอรับ”
เสียงกระซิบอ่อนละมุน หากกลับดึงกระชากหัวใจก้อนน้อยในอกบาง คายงเชิดหน้ารั้นยามเมื่อใบหน้าหล่อคมก้มลงแนบลำคอ แว่วเสียง...จุ๊บ...จุ๊บ..จุ๊บ...พร้อมแรงดูดดึงผิวเนื้ออ่อนนิ่ม กระตุ้นประสาทการรับรู้ทั่วกายให้ตื่นตัว มนุษย์น้อยผินหน้าไปด้านข้าง หากแต่กลิ่นอ่อนละมุนของดอกไม้กลับกลายเป็นปลุกเร้าให้รู้สึกหิวกระหาย หายใจหอบหนัก สายตาพร่าเลือนมองเห็นแสงระยิบระยับเต็มไปหมด
“...ไม่นะ...” มนุษย์ตัวน้อยถดตัวหนีเมื่อฝ่ามืออุ่นวางลงเหนืออก ปลายนิ้วแตะโดนสายคล้องฮาโอริแล้วละลายกลายเป็นละออง คายงกอดตัวเองส่ายหน้าริก ๆ
“ไม่ถอด...ไม่ถอดนะขอรับ” คายงหลับตาข่มความอาย “กระผม...กระผม...”
“อาย?” สุรเสียงเอ่ยเยียบเย็น คายงตกใจลืมตาขึ้นมองแล้วจึงพบว่าอีกฝ่ายเปลือยล่อนจ้อน และวันนี้ต่างจากคืนนั้นตรงที่เป็นกลางวันสว่างจ้า คายงเห็นร่างกายกำยำเต็มสองตาก็พลันหน้าร้อนฉ่า รีบเบือนสายตาหนีก่อนจะเห็นอะไรที่อยู่ต่ำลงไปกว่าเอว
ขณะที่ไคเห็นปฏิกิริยาดังกล่าวแล้วอมยิ้ม “ไม่เป็นไร...กระผมจะทำให้อายยิ่งกว่าถอดซะอีก”
“ท่าน...” ไม่ทันโต้เถียงก็ถูกจูบปิดกั้น ลิ้นร้อนล่วงล้ำเข้ามารุกไล่อย่างเชี่ยวชาญ ฝ่ามือลากเคลื่อนไปทั่วแผ่นอก ทิ้งอุณหภูมิร้อนผ่าวราวกับไฟลน แล้ววนมาหน้าเพื่อจับมือเล็กแยกจากกัน ผละริมฝีปากลงไปซุกไซ้ดูดเม้มข้างลำคอขาวนวลสร้างความวะหวิว คายงเชิดหน้าขึ้นขบกรามอย่างอดทน นิ้วมือสั้นป้อมซึ่งถูกจับกุมอยู่นั้นจิกเกร็งอย่างคนถูกทรมาน
“ท่านคายง พร้อมอายรึยังขอรับ?”
“!...ไม่...ไม่เอานะ...ไม่...” ร่างจ้อยผวาเฮือก ส่ายหน้าระริกเมื่อมือใหญ่ที่จับกุมมือตนอยู่นั้นออกแรงดึงรั้งให้ลงไปสัมผัสช่วงล่างซึ่งเปล่าเปลือยและร้อนรุ่ม
“อืม...อ่า....” เสียงทุ้มต่ำครางแผ่วข้างหู บังคับให้คายงกอบกำของตัวเองเอาไว้จนเต็มมือ อีกทั้งส่งแรงให้ขยับขึ้นลงแล้วเจ้าตัวก็สูดปากสูดคอปนเสียงหัวเราะชอบใจ คายงหลับตาหันหน้าหนีด้วยความอับอายเพราะเจ้าสิ่งนั้นกำลังขยับขยายเต่งตึงสู้มือตน และไหนจะอุณหภูมิที่ร้อนจนรู้สึกเหมือนถูกเผาไหม้นี่อีก...
เพียงชั่ววูบที่เผลอจินตนาการว่าสิ่งนั้นล่วงล้ำเข้ามาในกาย..
“รู้สึกแล้วสินะขอรับ?”
“ฮ้ะ!?!”
ลมหายใจต้องกระตุกเฮือก เมื่อช่วงที่มัวแต่คิดฟุ้งซ่านเป็นการเปิดโอกาสให้มือใหญ่สักข้างผละมาโจมตีส่วนล่างของตน มนุษย์หนุ่มเม้มปากแน่นเมื่อความจริงประจักษ์ว่ากลางกายของตนเริ่มตื่นตัวบ้างแล้วเช่นกัน
แม้มีอาภรณ์หนาคั่นอยู่กลับไม่อาจหลบเลี่ยงสัมผัสกดนวดและเคล้นคลึงจากฝ่ามือร้ายที่ยังจงใจแผ่ไอร้อนออกมาปั่นป่วนกัน และจู่ ๆ ห้วงหายใจต้องติดขัด ตากลมเบิกมองเกือบถลน...เพราะมือร้ายกาจนั้นแตะไตลไปด้านข้าง และผลุบเข้าไปในโพรงกางเกงฮากามะอย่างรวดเร็ว
“อึ้ก...ฮ...ฮ้า...ฮ้า...” คายงพยายามสูดหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อตั้งสติ แต่แม้กระทั่งลมหายใจยังสั่นเครือยามเมื่อส่วนที่ซ่อนเร้นนั้นถูกตามหาจนเจอ
“ท่านคายง...ไม่ใส่นั่นรึขอรับ?”
“น่ะ...นั่น?” คิวเข้มขมวดปม
“ฟุนโดชิ...
...กางเกงซับในน่ะขอรับ”
“........” พอเข้าใจความหมายหนุ่มชาวบ้านก็อ้าปากพะเงิบพะงาบ ขณะที่ไคผละหน้าออกมา ตวัดสายตามองอย่างลามก “ท่านคายงเป็นมนุษย์โตแล้ว หากไม่ใส่... มันจะยานเอานะขอรับ”
“ก...กระผมนึกว่าไม่มี...ก็ท่านลู่ไม่ได้...”
“ฮึ ๆ ๆ ๆ ๆ” ชายรูปงามอมยิ้มหัวเราะในลำคอ ก่อนจะทิ้งตัวลงกักกอดร่างเล็ก ซุกจมูกหอมกอดฟอดใหญ่ทั้งที่ยังหัวเราะอยู่
“ท่านไคกระผมไม่ตลกนะ ท่านไค....อ้ะ...” คนตัวน้อยที่ตั้งท่าจะโวยวายกลับต้องหลุบหายจากลมหายใจขาดห้วง เมื่อถูกฝ่ามือร้อนสัมผัสอย่างหนักหน่วง กอบกุมรอบล้อมแล้วขยับปรนเปรอสลับเคล้นคลึง แต่ผ่านไปสักพักเริ่มเกิดอารมณ์คล้อยตามก็หลับตาพริ้ม ครางฮึมฮำในลำคอ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าปลาตัวใหญ่นั้นมองดูสีหน้าแดงก่ำแล้วเกิดความหิวกระหายมากเพียงใด มือเล็กที่ถูกบังคับให้จับส่วนนั้นเอาไว้มักจะจิกเกร็งและกำขย้ำทุกครั้งที่รู้สึกดี
คายงรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไคแหวกโพรงฮากามะเอาสิ่งนั้นของเขาออกมา แล้วกล่าวทักทาย
“สวัสดีขอรับ ท่านคายงน้อย”
ตากลมเบิกกว้าง “!!...ท่าน...อ้ะ!!...”
แต่ทั้งที่ตั้งท่าจะต่อว่า กลับต้องอ้าปากค้าง เมื่อเผลอลืมตามองแล้วเห็น’สิ่งนั้น’ชัดเจนเต็มสองตา สัดส่วนร้อนจัดมีขนาดใหญ่โตถูกโอบแนบชิดกับของตัวเอง เทียบกันโดยตรงแล้วของคายงกลายเป็นเล็กกระจิ๊ดเดียว
“ท...ท่านไค อย่าทำอย่างนี้...อย่า...มัน...อ..อื้ออ!!” สัมผัสเสียดสีโดยตรง ตรงซอกขานั้นก่อให้เกิดความรู้สึกอับอายจนอยากกัดลิ้นตายเสียตรงนี้ คายงพยายามจะร้องห้ามหากกลับไม่เป็นผล เพราะกลายเป็นตนที่ต้องหลุดเสียงร้องประหลาดออกมา
มือน้อย ๆ ถูกปล่อยเป็นอิสระเพราะมือใหญ่จะจัดการเอง คายงจึงดึงสาปฮาโอริขึ้นมาปกคลุมศีรษะและใบหน้าเอาไว้
“อายมากไหมขอรับ?” ได้ยินเสียงไคกระซิบแผ่ว คายงสะดุ้งหดคอหนี แต่แล้วคนหลบนีต้องหายใจกระเส่าเมื่อไคขยับสะโพกให้ส่วนนั้นของพวกเขาเสียดสีกันอย่างรวดเร็ว จนเกิดความรู้สึกวูบโหวงประหลาด ๆ ในช่องท้อง
“ท่านคายง...” เสียบทุ้มต่ำกระซิบข้างหู “หวาดเสียวดีไหมขอรับ?”
“ฮึก...อื้ออ!!” คายงขบกรามแน่น แม้รู้อยู่แต่ใจแต่กลับส่ายหน้าริก ๆ
“ท่านคายง ออกมาดูสักหน่อยสิขอรับ ท่านคายงน้อยเริ่มร้องไห้แล้ว”
“ไม่! ท่านไค ลามก...อ๊า!! อ๊ะ อื้อ!!”
ราวกับถูกกลั่นแกล้งอย่างจงใจ แล้วคายงจึงเข้าใจความหมายของบทลงโทษ ยิ่งเขาอับอายอีกฝ่ายยิ่งพอใจ คายงจึงได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนไป จนกระทั่งผ่านไปสักพักร่างกายเริ่มกระสับกระส่าย ความรู้สึกคล้ายทะยานตัวขึ้นไปใกล้แตะผิวน้ำ คายงลอบสูดปาก อดทนต่อห้วงทรมานใกล้ปลดปล่อย
แต่แล้วกลับต้องเบิกตาค้าง เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของอีกคน...
ปลาตัวใหญ่มุดเข้ามาในใต้ร่มผ้า กำลังเบิกตามองพร้อมยักยิ้มทะเล้น
“มะ ไม่! ไม่!! ออกไปเดี๋ยวนี้!!” คายงตกใจสะดุ้งสุดตัว ร่างกระจิ๊ดริดดิ้นขลุกขลักสุดชีวิต สองมือระดุมทุบตีสะเปะสะปะไม่สนทิศทาง
“โอ๊ย!”
“..!?!” แล้วต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงร้องที่ทรงพลังและดังกึกก้อง
ทุกการเคลื่อนไหวหยุดชะงักลง คายงค่อย ๆ หยัดตัวขึ้นนั่ง นัยน์ตาสีทึบสั่นไหว มองเห็นไคที่ผละออกไปกำลังหลับตานิ่วหน้า เม้มปากคำรามในลำคอคล้ายกำลังข่มความเจ็บปวด พอเคลื่อนสายตาไปด้านข้าง...จึงเห็นกลุ่มผมที่ชุ่มคราบสีน้ำเงินเป็นวงชัดเจน
และนั่นคือเลือด คือร่องรอยบาดเจ็บตำแหน่งเดียวกันกับเมื่อคืนวาน มือตัวเองอยู่ไม่ห่างกันมีคราบเลือดติดปลายเล็บ หมายความว่าเมื่อครู่เขาพลั้งมือทำร้ายจุดนั้นซ้ำ ฉับพลันความรู้สึกผิดเริ่มเกิด คายงก็รู้สึกหมดแรง มือน้อยกำอยู่ค่อย ๆ คลาย นิ้วสั้นป้อมขยับเกร็งอย่างประหวั่นก่อนจะแตะสัมผัสกลุ่มผมนุ่มลื่นรอบวงแผลอย่างระมัดระวัง
“กระผมขอโทษ เจ็บมากไหมขอรับ...”
คิ้วคมกระตุกวาบหนึ่ง ก่อนตาสีครามจะเบิกขึ้นมองอย่างประหลาดใจ...
และสักพัก ก็เผยรอยยิ้มละไม เอียงคอซบฝ่ามือน้อย “กระผมเจ็บมากเลย ท่านคายงช่วยด้วย”
“...ท่านเจ็บจริงหรือหลอกกันแน่”
ไคหัวเราะแผ่ว ยกมือขึ้นประกบฝ่ามือน้อยให้หยุดไว้จุดเดิม สายตาทอดมองเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “เจ็บตรงนี้ หักล้างที่ใจไม่ได้เลย”
“........” แม้น้ำเสียงและสีหน้าของไคแสนอ่อนโยน หากกลับทำให้ความรู้สึกผิดตีตื้นขึ้นในใจ
“ท่านคายง เยียวยากระผมที...”
“! อ๊ะ!!...ท่านไค!” หนุ่มชาวบ้านต้องสะดุ้งวาบเมื่อมือร้ายเริ่มปลุกปั่นอารมณ์เบื้องล่างอีกครั้ง หนุ่มชาวบ้านส่ายหน้า ออกแรงผลักช่วงไหล่กว้าง“ไหนบอก จะให้กระผมเยียวยา...น่ะ นี่มัน..ไม่ช่ะ...อ้ะ!”
“ก็เยียวยาไงขอรับ...” ปลาไคกระซิบ ก่อนจะขยับชักนำเร็วรัว จนร่างน้อยดิ้นพล่าน
“ท่านไค อะ อึ๊ก!...อื้๊อออ!” ถูกปลุกเร้าจวนจะแตะฝั่งฝันแล้วรอมร่อ ผู้กุมอำนาจกลับหยุดชะงักและปิดกั้นปลายทางไว้ ส่งผลให้มนุษย์ร้องครวญครางทรมานจากสิ่งที่คั่งค้างอัดแน่นไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้
“...ที่ใจ”
“........”
คายงสะอึกและนิ่งไป ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบมอง ขณะที่มือใหญ่ประคองข้างแก้มอย่างทะนุถนอม
“ได้ไหมขอรับ?” ตาสีครามลดละห้อย เอ่ยเว้าวอน
“........”
จนถึงตอนนี้ คายงยังคงมองไคเป็นดังปีศาจร้าย ที่ทำให้หัวใจปั่นป่วนอย่างร้ายกาจ
แต่...
บางที...ก็แสนดีเหลือเกิน...
บรรยากาศตึงเครียดโรยตัวได้ไม่นานนักก็คลาย เมื่อร่างที่นอนอยู่ข้างใต้ค่อย ๆ หลับตาลง ท่าทีสงบนิ่งสื่อความหมายว่ายินยอม ท่านผู้ปกครองจึงประคองให้นอนลงช้า ๆ คายงที่หลับตาอยู่รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นแตะแต้มตามโครงหน้า ปมสายคาดฮากามะถูกแกะออกอย่างใจเย็น ขาเล็กลีบถูกจับให้หลุดพ้นจากผ้าและชันเข่าไว้ โดยมีไออุ่นแผ่กระจายสม่ำเสมอราวกับเกราะปกป้องจากความหนาวเย็น
“!..” ไหล่ลาดสะดุ้งไหวยามเมื่อปลายนิ้วของไคแตะจีบเนื้อปากทาง ใจดวงน้อยเต้นระส่ำตอนที่นิ้วนั้นค่อย ๆ กดนวดโดยรอบ แล้วค่อย ๆ สอดเข้ามาอย่างระมัดระวัง...แต่จู่ ๆ ภาพเหตุการณ์ค่ำคืนนั้นกลับฉายชัดขึ้นในภวังค์ ให้เกิดหวาดผวาเมื่อสิ่งที่รุกล้ำนั้นเริ่มขยับเคลื่อน
บาป...เขาทำลังทำบาป...
“ท่านคายงขอรับ” แต่แล้วเสียงนุ่มละมุนแว่วขึ้น ความอบอุ่นรายล้อมกายคล้ายกับปลอบประโลมขวัญ คายงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นสบมองผู้ครองอำนาจเหนือร่างของตน ใบหน้ารูปงามแสดงรอยยิ้มอ่อนโยน จับมือเขาข้างหนึ่งให้ประกบข้างสันกราม
“หากรู้สึกผิด ให้ท่านโยนความผิดทั้งหมดมาที่กระผม”
คายงหายใจหอบหนักเมื่อก้านนิ้วในกายเพิ่มเป็นสอง
“เวลานี้กระผมกำลังข่มเหงรังแก่ท่าน” แล้วขยับเร็วขึ้น คายงผินหน้าหลบไปด้านข้าง หน้าหวานบิดเบี้ยวเหยเก ขบฟันกล้ำกลืนเสียงร้องลงลำคอ
“ใช้อำนาจ เล่ห์กล..ข่มขู่ ข่มขวัญท่าน” แล้วจึงเพลาจังหวะลง ร่างน้อยถอนหายใจเฮือก แต่แล้วต้องจุกกับนิ้วที่สามที่พยายามขยับขยายช่องทางคับแคบ
ริมฝีปากรูปสวยพรมจูบข้างขมับ ปลอบประโลมให้คลายจากความหวาดกลัว จับมือเล็กคล้องบ่าตนเองไว้ แล้วค่อย ๆ เคลื่อนลงไปนวดสะโพกเล็กอย่างเบามือ กระซิบคำปลอบโยนใจดวงน้อยที่ปวดร้าว
“ท่านไม่เต็มใจย่อมไม่ผิด กระผมผิดเอง...
...ที่มีใจปฏิพัทธ์ต่อท่าน”
“อ้ะ!!!” ร่างมนุษย์เกร็งขึง ลมหายใจขาดห้วงยามเมื่อกายร้อนสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว
เจ็บ...แต่ไม่เจ็บเท่าวันนั้น ที่ตื่นตระหนกเนื่องจากอุณหภูมิร้อนจัดถ่ายเทเข้าสู่ตัวในช่องทางนั้น คายงขบกรามแน่นอย่างอดทน จนไม่นานความร้อนแผ่ซ่านจนอบอุ่นไปถ้วนทั่ว ความหวาดกลัวจึงค่อย ๆ เลือนหาย และเกิดประกายหวามไหวยามเมื่อผู้เป็นใหญ่เริ่มขยับตัว
“กระผมรักท่าน...” ริมฝีปากสวยพร่ำเอ่ยคำอยู่ข้างหู
“รัก...มากเหลือเกิน รักตั้งแต่แรกพบ” ขยับเขยื้อนกายเร็วระรัว ตระกองกอดร่างน้อยไว้อย่างหวงแหน คายงหายใจหอบหนักในอกแกร่ง ช่วงเวลาทรมานหวนกลับมาพร้อมห้วงกามาที่ตื่นตัว มันปั่นป่วน มันหวาดเสียวเสียจนหายใจไม่ทั่วท้อง มือเล็กเคลื่อนตกลงเบื้องล่าง เผลอกางนิ้วจิกทึ้งสุสุบงโดยไม่รู้ตัว
ปากอิ่มเผยอรับจุมพิต ดื่มด่ำกำซาบรสหอมหวานซึ่งไม่นานกลับเผ็ดร้อน เสียงแหบห้าวเก็บงำอยู่ในลำคอแม้ได้ยินเพียงแผ่วแต่กลับกระตุ้นอารมณ์กันได้อย่างดี ให้ฝ่ายรับฟังไม่อยากจะปรานีอีกต่อไป
“!...อื้อ!” ร่างกระจิ๊ดหดคอห่อไหล่เมื่อจู่ ๆ จังหวะก็กระชับ กระชั้น กระแทกกระทั้นแรง ความวาบหวามไล่ลามไปทั่วช่องท้อง ร่างกายส่วนหน้าบวมเป่งจนปวดหนึบ จนต้องเอื้อมมือตนลงไปบำบัด แล้วต้องหน้าร้อนฉ่าเมื่อสายตาเหลือบเห็นเรือนกายใหญ่ที่ผลุบเข้าออกจากร่างกายของตน
รีบละสายตาทันที หน้าแดงจัดผินหลบไปด้านข้าง แล้วจู่ ๆ ไคก็กอบกุมสองมือของเขาให้ยื่นไปทาบอกซ้าย นันย์ตาสีดำสนิทฉายภาพรอยยิ้มที่สว่างไสว
“หากท่านยินยอม หัวใจดวงนี้จะเป็นของท่าน...”
ตากลมหรี่ปรือมองอย่างงุนงง หากเวลานี้ก็ไม่อาจคิดอะไรได้ เมื่อไฟปรารถนาในกายปะทุสูงจนเกินกว่าจะห้ามปราม ปากบวมเจ่อเผยอร้องโอดครวญอย่างทุรนทุราย
“อ๊าาา!” และเผลอไผลหวีดร้องดัง ร่างกายเกร็งขืนจนชาวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า ภาพในตาเต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ ยกตัวขึ้นปลดปล่อย ซึ่งก็สวนทางกับร่างเบื้องบนที่เทน้ำหนักตัวลง โอบรัดร่างกระจิดริดไว้จมอก ตรึงสะโพกมนไว้กดย้ำเรือนร่างเข้าใส่อย่างลึกซึ้ง แล้วจึงปลดปล่อยไอร้อนมากมาย ที่แทบจะหลอมละลายร่างกายให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
“อืม...” คำรามในลำคออย่างสุขสม จังหวะระทึกแผ่วลงจนกระทั่งหยุดนิ่ง ผู้เป็นใหญ่แช่กายค้างไว้ปล่อยให้ผนังอ่อนนุ่มบีบรัดน้ำหล่อเลี้ยงออกจนหมด ใบหน้าคมคายผละห่างเล็กน้อยเพื่อจดจ้องมอง...
ดวงหน้าที่ผินไปด้านซ้ายขึ้นสีแดงปลั่งโดดเด่นออกมาจากพื้นดอกไม้ขาว ปากอิ่มบวมช้ำกำลังหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ตาปรือปรอยคล้ายคนเมาสุราก็มิปาน ช่างแสนหวานน่าทะนุถนอม หากก็เย้ายวนใจให้อยากลิ้มลองซ้ำ ๆ
ฝ่ามืออุ่นลูบไล้โครงหน้าเล็กอย่างหลงใหล...ก้มลงจูบและหอมปรางใสอย่างรักใคร่เอ็นดู ได้ยินเสียงอิดออดแว่ว ๆ “ท่านไค...พอแล้วขอรับ”
แต่แล้วผู้เป็นใหญ่ในใต้น้ำลึกกลับกระหยิ่มยิ้ม ก่อนจะกดสะโพกย้ำลงไปให้ร่างน้อยเปล่งเสียงงอแง มือแขนยกขึ้นผลักอย่างอ่อนเปลี้ย
“กระผมไม่ไหวแล้ว...จะเป็นลมแล้วขอรับ”
“ก็เป็นไป...” สุรเสียงกระซิบเอ่ย ขณะที่ช่วงล่างเริ่มเขยื้อนเป็นจังหวะช้า ๆ
“กระผมจะดูแลท่านเอง...อย่างดี”
ไม่สนใจเสียงท้วงติงใด ๆ อีก พญาปลากักกอดหนุ่มชาวบ้านไว้ และเริ่มต้นสะกิดประกายไฟ...อีกครั้ง
ช่วงเวลาที่สติเมามัว คายงไม่ได้นับ...ว่าถูกสารภาพรักไปกี่หน แต่ยังมีคำหวานหนึ่งที่ได้ฟังแล้วความรู้สึกต้องตีรวนกันอย่างชอบกล
“จะเป็นดั่งสุสุบงให้ท่านชื่นชม
เด็ดดมแล้วทิ้ง...จะไม่โกรธ...หรือขุดรากถอนโคน จะไม่ห้าม
จะแตกหน่อแตกกอ ผลิช่อบานสะพรั่งใหม่ เพื่อท่านคายงเสมอ”